แอร์ CARRIER รุ่น COPPER 11 เป็นเครื่องปรับอากาศติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัล ด้วยระบบ Wi-Fi Built-in ที่ช่วยให้คุณควบคุมแอร์ได้จากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน รวมถึงสามารถตรวจสอบค่าไฟแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการทำความเย็นที่สูง ประหยัดพลังงาน และมีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแอร์คุณภาพสูงที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่าในระยะยาว
สารบัญ

[custom-template id=’9953′ post_id=’12707′]
คุณสมบัติเด่นและสเปค
CARRIER COPPER11 มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 9,200 BTU ไปจนถึง 25,200 BTU เพื่อให้เหมาะกับขนาดห้องที่หลากหลาย โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
- ระบบ Wi-Fi Built-in: ควบคุมแอร์และตรวจสอบค่าไฟผ่านสมาร์ทโฟนได้
- คอยล์ทองแดง (Copper Coil): ทนทานต่อการกัดกร่อน ใช้งานได้ยาวนาน
- ระบบ Inverter: ประหยัดพลังงาน รับรองด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- PM 2.5 Filter: กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Self Cleaning: ระบบทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
- Big Airflow: กระจายความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง
- Anti-Shock: ป้องกันไฟกระชากและฟ้าผ่า
- Auto Restart: กลับมาทำงานอัตโนมัติหลังไฟดับ
ด้านสเปค แอร์รุ่นนี้ใช้สารทำความเย็น R32 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีค่า SEER สูงถึง 19.50 BTU/hr./Watt ในรุ่น 25,200 BTU และมีระดับเสียงต่ำเพียง 23 dB(A) ในโหมดเบาที่สุด
ดีไซน์และคุณภาพการผลิต
CARRIER COPPER 11 มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย เรียบหรู เข้ากับการตกแต่งภายในได้หลากหลายสไตล์ ตัวเครื่องภายในมีขนาดกะทัดรัด ไม่เกะกะ โดยรุ่นขนาดเล็กมีความกว้างเพียง 770 มม. ส่วนรุ่นใหญ่สุดก็มีความกว้างเพียง 1,050 มม. เท่านั้น
ในด้านคุณภาพการผลิต CARRIER เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและได้รับความไว้วางใจมายาวนาน แอร์รุ่นนี้ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง โดยเฉพาะการใช้คอยล์ทองแดงทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นและความทนทานของเครื่อง นอกจากนี้ยังมีการรับประกันที่ยาวนานถึง 10 ปีสำหรับคอมเพรสเซอร์ และ 5 ปีสำหรับอะไหล่ สะท้อนถึงความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
ประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นการใช้งาน
CARRIER COPPER 11 โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการทำความเย็นที่สูง ด้วยระบบ Inverter ที่ปรับความเร็วคอมเพรสเซอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น:
- ระบบ Wi-Fi Control: ควบคุมแอร์ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ตั้งเวลาเปิด-ปิด ปรับอุณหภูมิ และตรวจสอบการใช้พลังงานได้
- PM 2.5 Filter: กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้อากาศในห้องสะอาดขึ้น
- Self Cleaning: ระบบทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ ช่วยลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย
- Big Airflow: กระจายลมเย็นได้ไกลและทั่วถึง ช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น
- Extra Cleaning: ถาดน้ำทิ้งถอดทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยให้การบำรุงรักษาทำได้สะดวก
- Anti-Shock และ Auto Restart: ช่วยปกป้องแอร์จากไฟกระชากและกลับมาทำงานอัตโนมัติหลังไฟดับ
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี:
- ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน ด้วยระบบ Inverter และฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้ สะดวกสบายในการใช้งาน
- มีระบบกรอง PM 2.5 ช่วยให้อากาศในห้องสะอาดขึ้น
- คอยล์ทองแดงทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
- รับประกันนานถึง 10 ปีสำหรับคอมเพรสเซอร์
- มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Self Cleaning, Big Airflow
ข้อเสีย:
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแอร์ทั่วไป
- ต้องมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เสถียรเพื่อใช้งานฟังก์ชั่นควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้เต็มประสิทธิภาพ

[custom-template id=’9953′ post_id=’12707′]
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
เมื่อเปรียบเทียบ CARRIER COPPER 11 กับ TCL Elite Series พบว่ามีทั้งจุดเด่นและข้อแตกต่างที่น่าสนใจ:
- ประสิทธิภาพการทำความเย็น: ทั้งสองรุ่นใช้ระบบ Inverter เพื่อประหยัดพลังงาน แต่ CARRIER มีค่า SEER สูงกว่า ซึ่งอาจหมายถึงประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่ดีกว่าในระยะยาว
- ฟังก์ชันพิเศษ: CARRIER มีระบบ Wi-Fi Built-in ในขณะที่ TCL ไม่ได้ระบุว่ามีฟังก์ชันนี้ อย่างไรก็ตาม TCL มีระบบเตือนทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่น่าสนใจ
- การกรองอากาศ: ทั้งสองรุ่นมีระบบกรองอากาศ แต่ CARRIER มีระบบกรอง PM 2.5 ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่า
- ความทนทาน: ทั้งสองรุ่นใช้ท่อทองแดง 100% ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพการทำความเย็น
- การติดตั้ง: TCL ไม่รวมสายไฟและสายเชื่อมต่อในชุด ซึ่งอาจเพิ่มค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
โดยสรุป CARRIER COPPER11 WIFI มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายกว่า แต่มีราคาสูงกว่ามาก ในขณะที่ TCL Elite Series เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการแอร์ที่มีประสิทธิภาพดี ทั้งนี้ การเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้
ความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง
จากการรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้จริง พบว่าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับ CARRIER COPPER 11 ในระดับสูง โดยมีข้อคิดเห็นดังนี้:
- ผู้ใช้หลายรายชื่นชมประสิทธิภาพการทำความเย็นที่รวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะฟังก์ชัน Big Airflow ที่ช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น
- หลายคนประทับใจกับระบบ Wi-Fi Control ที่ช่วยให้ควบคุมแอร์ได้สะดวกผ่านสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการตั้งเวลาเปิด-ปิดล่วงหน้า
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกว่าแอร์ทำงานเงียบมาก โดยเฉพาะในโหมดประหยัดพลังงาน
- มีความเห็นที่ดีต่อระบบกรอง PM 2.5 ที่ช่วยให้อากาศในห้องสะอาดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นละออง
- ผู้ใช้บางรายรายงานว่าค่าไฟฟ้าลดลงหลังจากเปลี่ยนมาใช้แอร์รุ่นนี้
อย่างไรก็ตาม มีข้อติชมบ้างเล็กน้อยเกี่ยวกับราคาที่ค่อนข้างสูง และความซับซ้อนในการตั้งค่า Wi-Fi ครั้งแรกสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี
ราคาเท่าไหร่ คุ้มค่าหรือไม่
CARRIER COPPER 11 มีราคาแตกต่างกันไปตามขนาด BTU ดังนี้:
- 9,200 BTU (42TVEA010): ประมาณ 13,000 บาท
- 12,100 BTU (42TVEA013): ประมาณ 14,500 บาท
- 15,000 BTU (42TVEA016): ประมาณ 19,000 บาท
- 18,000 BTU (42TVEA018): ประมาณ 24,000 บาท
- 20,400 BTU (42TVEA024): ประมาณ 28,000 บาท
- 25,200 BTU (42TVEA028): ประมาณ 35,000 บาท
เมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่า ต้องยอมรับว่าราคาของ CARRIER COPPER11 WIFI อยู่ในระดับกลางถึงสูงเมื่อเทียบกับแอร์ทั่วไปในท้องตลาด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงคุณสมบัติและประโยชน์ที่ได้รับ สามารถกล่าวได้ว่ามีความคุ้มค่าในระยะยาว ด้วยเหตุผลดังนี้:
- ประหยัดค่าไฟ: ด้วยระบบ Inverter และฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
- อายุการใช้งานยาวนาน: คอยล์ทองแดงช่วยเพิ่มความทนทาน ลดค่าซ่อมบำรุงในอนาคต
- ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย: Wi-Fi Control, PM 2.5 Filter, Self Cleaning ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- การรับประกันที่ยาวนาน: รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี และอะไหล่ 5 ปี ช่วยลดความกังวลเรื่องค่าซ่อมในอนาคต
- ประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง: ช่วยให้ห้องเย็นเร็ว ประหยัดเวลาและพลังงาน
สำหรับผู้ที่ต้องการแอร์คุณภาพสูง ใช้งานได้ยาวนาน และมีฟังก์ชันทันสมัย CARRIER COPPER11 WIFI ถือว่าคุ้มค่ากับราคา แม้จะมีราคาสูงกว่าแอร์ทั่วไป แต่ด้วยประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
วิธีซื้อราคาถูกที่สุด
การเลือกซื้อ CARRIER COPPER 11 ให้ได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีวิธีการและข้อแนะนำดังนี้:
- เปรียบเทียบราคา: ควรตรวจสอบราคาจากหลายๆ แหล่ง ทั้งร้านค้าออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อหาราคาที่ดีที่สุด
- จับตาโปรโมชั่น: ติดตามโปรโมชั่นตามเทศกาลต่างๆ เช่น ช่วงปลายปี หรือเทศกาลลดราคาออนไลน์ อย่าง 11.11 หรือ 12.12 ซึ่งมักมีส่วนลดพิเศษ
สำหรับการเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น แนะนำให้ตรวจสอบจากแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ
[custom-template id=’9953′ post_id=’12707′]